เล่นพิลาทีส บรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล ได้จริงไหม

เล่นพิลาทีส บรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล ได้จริงไหม

เชื่อว่าหลายคนที่ทำงานออฟฟิศในปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ อันเนื่องมาจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือที่เรียกกันว่าอาการออฟฟิศซินโดรม หรืออาจจะประสบปัญหาจากการนอนผิดท่า ทำให้อาการปวดเมื่อยกำเริบขึ้นมา ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการบรรเทาอาการเหล่านี้หลากหลายวิธี เช่น ใช้เจลประคบร้อนเย็นเพื่อบรรเทาการบรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด รวมถึงคลายความตึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าเราพูดถึงการเล่นพิลาทีสสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรมได้จริงหรือไม่ มาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้เลย   

พิลาทีส คืออะไร

พิลาทีส (Pilates) เป็นการออกกำลังกายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเน้นการจัดระเบียบร่างกายและการหายใจที่เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหว (Breathing) ควบคู่ไปกับการควบคุมแกนกลางลำตัว (Core Stability) การเล่นพิลาทีสจะใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและหลังเป็นหลัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับร่างกายนั่นเอง 

นอกจากนี้ ยังพบว่าการเล่นพิลาทีสสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของกล้ามเนื้อหลังในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุได้ นอกจากนี้ การเล่นพิลาทีสยังช่วยปรับสมดุลอารมณ์ ฝึกสมาธิและทำให้จิตใจสงบอีกด้วย

พิลาทีสมีกี่ประเภท

การเล่นพิลาทีสสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แบบใช้อุปกรณ์และแบบไม่ใช้อุปกรณ์ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

พิลาทีสรีฟอร์มเมอร์

1. แบบใช้อุปกรณ์

การเล่นพิลาทีสแบบใช้อุปกรณ์จะใช้อุปกรณ์เฉพาะทางมีขนาดอุปกรณ์ตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ โดยอุปกรณ์หลัก ๆ ที่ใช้ในการเล่นพิลาทีส ได้แก่ Ball, Flex Band, Fitness Circle, เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer), คาดิลแลค (Cadillac) และเก้าอี้วุนดา (Wunda Chair) นอกจากนี้ยังสามารถเล่นร่วมกับผ้าที่ห้อยจากที่สูง โดยใช้ผ้าเป็นตัวช่วยในการทำท่าต่าง ๆ ผสมผสานระหว่างโยคะ พิลาทีสและยิมนาสติกอีกด้วย  

พิลาทีสแมท

2. แบบไม่ใช้อุปกรณ์

สำหรับการเล่นพิลาทีสแบบไม่ใช้อุปกรณ์ จะใช้เพียงเสื่อที่ใช้ออกกำลังกายเท่านั้น โดยจะมีท่าทางในการเล่นจะคล้ายกับการเล่นโยคะ แต่เน้นการออกกำลังกายที่บริเวณแกนกลางลำตัวและหน้าท้องเป็นหลัก ข้อดีของการเล่นพิลาทีสแบบนี้ คือสามารถเล่นได้ที่บ้าน สะดวกและไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ราคาแพงอีกด้วย   

ประโยชน์ของการเล่นพิลาทีส 

1. เสริมความแข็งแรงของแกนกลางร่างกาย

การเล่นพิลาทีสจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลายส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแขน ขา และหลัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาท่าทางและการทรงตัวของร่างกายอีกด้วย  

2. ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

การเล่นพิลาทีสเน้นการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายควบคู่ไปกับการควบคุมลมหายใจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผ่อนคลาย และสามารถช่วยลดระดับความเครียดได้ ซึ่งการฝึกสมาธิผ่านการหายใจระหว่างการเล่นที่ถูกต้องจะช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายมากขึ้นนั่นเอง  

3. เพิ่มความยืดหยุ่นในแก่ร่างกาย

พิลาทีสเป็นการออกกำลังกายที่เน้นการยืดและเหยียดกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายเกือบทุกส่วน โดยเฉพาะบริเวณรอบข้อต่อ ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีความยืดหยุ่นของร่างกายต่ำ 

อาการออฟฟิศซินโดรม

4. ลดการเกิดออฟฟิศซินโดรม

การเล่นพิลาทีสช่วยบรรเทาอาการปวดหลังและปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดีขึ้น เนื่องจากเน้นการใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและการจัดแนวร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการเมื่อยล้า เพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวและบรรเทาอาการปวดในโรคต่าง ๆ เช่น โรคปวดคอและปวดหลังเรื้อรัง โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เป็นต้น 

ข้อควรระวังในการเล่นพิลาทีส

  • ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มเล่นพิลาทีส โดยเฉพาะถ้าเพิ่งหายจากการเจ็บป่วยหรือการผ่าตัด
  • สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่น ควรมีผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเล่น การหายใจ และการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ หรือจากการใช้อุปกรณ์ เป็นต้น 
  • พิลาทีสควรแนะนำให้เริ่มต้นจากท่าพื้นฐานและค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ท่าที่ยากขึ้น ไม่ควรเร่งรัดการฝึกฝนเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
  • ควรตรวจความหนาแน่นของกระดูกก่อนเริ่มเล่น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เนื่องจากกระดูกมีความเปราะบางและแตกหักได้ง่าย
  • แนะนำให้เพื่อเลือกวิธีการเล่นพิลาทีสที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี

สรุป

การเล่นพิลาทีสเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลากหลาย โดยเฉพาะการช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ด้วยการเน้นเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เพิ่มความยืดหยุ่นและช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ควรทำให้ถูกวิธีภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ และเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย