ปวดหัวไมเกรน เป็นอาการปวดหัวที่ไม่ใช่ปวดหัวแบบธรรมดาปกติทั่วไป เนื่องจากเป็นอาการปวดที่มีความรุนแรงกว่า จึงทำให้หลายคนที่มีอาการปวดไมเกรนรู้สึกได้ถึงความทรมานจนอาจกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้เลย สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยอยู่ว่าอาการปวดหัวที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่นั้น ใช่การปวดหัวไมเกรนหรือไม่ และหากมีอาการจะต้องทำอย่างไร บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมดที่มี
ไมเกรน คืออะไร
การปวด ไมเกรน กล่าวคือ โรคทางประสาทวิทยาชนิดหนึ่ง ที่หากมีอาการจะส่งผลให้มีความรู้สึกปวดหัวตุบๆ เป็นจังหวะที่มีความรุนแรง โดยอาการปวดจะพบในลักษณะที่ปวดข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ อาจมีการปวดที่ยาวนานเป็นชั่วโมง หรืออาจปวดยาวนานหลายวันได้ และนอกเหนือไปจากอาการปวดที่บริเวณศีรษะแล้วยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วม อาทิเช่น คลื่นไส้, อาเจียน และอาจมีภาวะไวต่อการรับรู้แสง สี กลิ่น รวมถึงสัมผัส ซึ่งความรุนแรงมีตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงระดับที่รุนแรงมาก
อาการปวดหัวแบบไหน คือสัญญาณของไมเกรน
ตามที่ได้มีการกล่าวไปแล้วว่า การปวดหัวไมเกรนนั้นจะมีลักษณะการปวดที่แตกต่างไปจากการปวดหัวปกติ อย่าง ความรู้สึกปวดตุบๆ เป็นจังหวะที่มีความรุนแรงที่บริเวณข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย แต่สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าอาการปวดที่กำลังเป็นอยู่นั้นใช่ ไมเกรน หรือไม่ อาจสังเกตถึงสัญญาณเตือนก่อนปวดเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกัน
4 สัญญาณเตือนก่อนปวดไมเกรน ที่ต้องระวัง
ในทางการแพทย์นั้นได้มีการแบ่งชนิดการปวดหัวเอาไว้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นการอาการก่อนเป็นไมเกรน ได้แก่ ปวดหัวชนิดไม่มีอาการนำ เป็นการปวดหัวที่มีความรุนแรงอยู่ในระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรงมาก และอีกชนิดคือ การปวดหัวชนิดมีอาการนำ ซึ่งจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นก่อนปวดไมเกรนประมาณ 5 นาที -1 ชั่วโมง มี 4 สัญญาณเตือนดังนี้
1.อาการนำทางการรับความรู้สึก
อาการนำทางการรับความรู้สึก หรือ Sensory Aura กล่าวคือ อาการชาตั้งแต่บริเวณมือ, แขน ไปจนถึงบริเวณรอบปาก
2.อาการอ่อนแรงครึ่งซีก
อาการอ่อนแรงครึ่งซีก หรือ Hemiplegic Migraine กล่าวคือ อาการอ่อนแรงครึ่งซีกที่พบได้ในโรคปวดศีรษะ
3.อาการนำที่ก้านสมอง
อาการนำที่ก้านสมอง หรือ Migraine with Brainstem Aura กล่าวคือ อาการที่ทำให้เกิดการเวียนหัว, หูดับ, เดินเซ, หูแว่ว, ตาเข, ตาเหล่ หรืออาจทำให้เกิดอาการหมดสติได้
4.อาการนำทางตา
อาการนำทางตา หรือ Visual Aura กล่าวคือ อาการที่มองเห็นแสงระยิบระยับที่มีการแผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง ตามมาด้วยอาการที่มองเห็นภาพมืด หรือเห็นจุดบอดในขณะที่มองภาพสิ่งต่างๆ ซึ่งอาการนำทางตาจะเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด
ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ปวดไมเกรน มีอะไรบ้าง
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน ยังไม่มีสาเหตุของการเกิดที่แน่ชัด แต่จากที่ผ่านมาพบว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและกลไกทางพันธุกรรมเองก็เป็นหนึ่งในส่วนที่อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวชนิดนี้ได้ และอาจมีตัวกระตุ้นบางอย่างที่อาจเป็นปัจจัยร่วมกับกลไกทางพันธุกรรม อาทิเช่น ความเครียด, การนอนหลับที่เปลี่ยนแปลงไป, การได้รับยาบางชนิด รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในเพศหญิงเอง ก็มีส่วนด้วยเช่นเดียวกัน โดยส่วนมากแล้วพบว่า อาการปวดหัวไมเกรนเป็นอาการที่สามารถพบในเพศหญิงได้มากกว่าเพศชายถึง 3 เท่า และนอกเหนือไปจากตัวแปรทางเพศแล้ว ยังพบอีกว่าหากในครอบครัวมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งปวดหัวไมเกรน มีโอกาสสูงมากที่สมาชิกบุคคลอื่นในครอบครัวจะมีโอกาสในการแสดงอาการของโรคตามไปด้วยสูง
วิธีป้องกันไม่ให้ไมเกรนกำเริบ
หากต้องการที่จะป้องกันการเกิดอาการ ไมเกรน สามารถทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจเป็นตัวกระตุ้น อาทิเช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, หากิจกรรมที่สามารถช่วยลดความเครียดได้, นอนพักผ่อนให้เป็นเวลา, หลีกเลี่ยงการอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป, หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีแสงไฟกระพริบ, หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีกลิ่นฉุน, งดการใช้ยาเกี่ยวกับฮอร์โมน แต่หากป้องกันแล้วยังมีอาการปวดไมเกรนอยู่ และมีการใช้ เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ พบว่ามีไข้ สับสนมึนงง ปวดเมื่อยคอ ควรรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวดตามที่แพทย์สั่ง แต่หากมีอาการหนักมากควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
สรุปบทความ
หากสังเกตอาการที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่และพบว่ามีอาการที่คล้ายกับ ไมเกรน แนะนำว่าอย่านิ่งนอนใจ ควรที่จะเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เนื่องจากยาที่ใช้ในการรักษานั้นจะมีด้วยกันหลายชนิด และแพทย์จะเลือกใช้ยาตามเงื่อนไขของผู้ป่วยแต่ละราย ดังนั้นหากพบถึงความผิดปกติของตัวเอง ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องโดยด่วน