ทำความรู้จัก การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ คืออะไร

เมื่อพูดกันถึงเรื่องของการดูแลสุขภาพ แน่นอนว่าการใส่ใจกับอาหารการกิน และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตมีส่วนสำคัญที่ช่วยดูแลสุขภาพได้ แต่นอกจากนั้นแล้วการออกกำลังกายเองก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่ง คาร์ดิโอ ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายที่ปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แล้วการออกกําลังกายคาร์ดิโอคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง มาทำความเข้าใจกัน

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ คืออะไร

Cardio ย่อมาจาก cardiorespiratory training โดยคำว่า Cardio หมายถึง หัวใจ และคำว่า respiratory (system) หมายถึง ระบบการหายใจ ซึ่งเมื่อนำเอาสองสิ่งนี้มารวมกัน และมีการทำกิจกรรมพร้อมทั้งฝึกฝนทั้งสองอย่างนี้ไปพร้อมกัน ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวิธีการทำ คาร์ดิโอ

การออกกําลังกายคาร์ดิโอ เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่จะเน้นไปในเรื่องของการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจและปอด เพื่อที่จะให้สามารถนำเอาออกซิเจนไปใช้ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วก็ยังเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและกระตุ้นความดันโลหิต รวมถึงสามารถช่วยลดน้ำหนักและเผาผลาญแคลอรีได้ด้วย

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง

การออกกําลังกายคาร์ดิโอ เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ถือได้ว่ามีประโยชน์หลากหลายเรื่อง จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมปัจจุบันนี้ถึงได้รับความนิยมจากผู้คนเป็นอย่างมาก ซึ่งประโยชน์ของการทำคาร์ดิโอก็มีดังต่อไปนี้

• เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย: การทำคาร์ดิโอในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง สามารถลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้รู้สึกสดชื่น และยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

• กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง: โดยเมื่อทำคาร์ดิโอแล้วจะสามารถช่วยให้ภุมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่ติดเชื้อไวรัสได้ด้วย

• ช่วยลดน้ำหนัก: เมื่อมีการทำคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร ก็จะสามารถช่วยลดน้ำหนักและยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดีมากขึ้น

• ลดคอเลสเตอรอล: การทำคาร์ดิโอเป็นประจำต่อเนื่องสามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีขึ้นมาได้ และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีลงได้ด้วย

• ช่วยให้หัวใจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ: การทำคาร์ดิโอส่งผลดีมาก ๆ ต่อการทำงานของหัวใจ เมื่อทำเป็นประจำก็จะช่วยให้หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังส่งผลดีไปยังระบบไหลเวียนเลือดด้วย

• ชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกาย: เมื่อมีการออกกำลังกายเป็นประจำก็จะส่งผลต่อกล้ามเนื้อในร่างกายที่จะแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้การเคลื่อนไหลของร่างกายดีขึ้น แถมยังช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกายได้ด้วยนั่นเอง
• ควบคุมอาการของโรคเรื้อรัง: สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง สามารถทำคาร์ดิโอได้ โดยหากว่าทำอย่างเหมาะสมก็จะสามารถช่วยควบคุมอาการของโรคที่เป็นได้ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและการแนะนำของแพทย์

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เหมาะกับใครบ้าง

การออกกำลังกายคาร์ดิโอนั้นเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่มีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนที่จะสามารถทำได้ โดยผู้ที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ ก็คือ ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตามการทำคาร์ดิโอควรทำอย่างเหมาะสม และผู้ที่ป่วยเป็นบางโรคก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นหากมีโรคประจำตัวก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

แนะนำการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

การทำคาร์ดิโอไม่ว่าจะมาจากชนิดใดก็ตามล้วนสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นด้วย โดยวิธีการออกกำลังกายที่สามารถทำคาร์ดิโอได้ก็มีหลากหลายอย่าง ได้แก่

• วิ่งจ็อกกิ้ง: เป็นวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงหรือผ่านการออกกำลังกายมานาน และผู้ที่มีปัญหาหายใจถี่ เจ็บหน้าอก หรือเป็นโรคกระดูกพรุน ควรหลีกเลี่ยงเพราะจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น

• ว่ายน้ำ: เป็นวิธีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ดีมาก ๆ เพราะน้ำเป็นสิ่งที่สามารถลดแรงกระแทกสำหรับข้อต่อในส่วนต่าง ๆ ได้ อีกทั้งน้ำยังเป็นสิ่งที่สามารถช่วยพยุงร่างกายได้เป็นอย่างดีด้วย ซึ่งวิธีการนี้เหมาะสมกับทุกคนเลย

• ขี่จักรยาน: เป็นวิธีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่มีแรงกระแทกต่ำ เหมาะสมกับทุกคนและทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องข้อต่อ โรคกระดูกพรุน หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ก็สามารถออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ได้
• เดิน: เป็นวิธีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ให้ผลดีมาก เนื่องจากว่าสามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ดี และยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับหัวใจได้ด้วย ซึ่งวิธีนี้ผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายสามารถทำได้

สรุปจบบทความ

แม้ว่าการออกกำลังกายคาร์ดิโอมีประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกายมากมายก็จริง แต่อย่างไรก็ตามหากทำไม่เหมาะสมหรือทำผิดวิธีก็สามารถส่งผลเสียตามมาได้ โดยเฉพาะอาการกล้ามเนื้อบาดเจ็บ ซึ่งหากเกิดอาการนี้ขึ้นมาก็สามารถใช้เจลประคบร้อน-เย็น เข้ามาช่วยในการบรรเทาอาการปวดหรือเกร็งกล้ามเนื้อได้