ปัญหาสุขภาพเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน ไม่มีใครที่จะหลีกเลี่ยงไปได้ โดยปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นนั้นก็มีหลากหลายมาก ๆ และเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะบางครั้งอาจจะส่งผลเสียตามมาอีกมากมาย อาการปวดหัวเองก็เช่นกันที่เป็นปัญหาสุขภาพกวนใจผู้คนอยู่บ่อยครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าการปวดหัวตรงไหนหรือส่วนใดนั้นสามารถบอกอะไรได้บ้าง ในบทความนี้จะมาบอกให้ได้เข้าใจกันมากขึ้น
อาการปวดหัวแต่ละส่วน บอกอะไรได้บ้าง
เมื่อพูดถึงอาการปวดหัว หรือ ปวดศีรษะนั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นอาการยอดฮิตที่สามารถเป็นกันได้บ่อย ๆ โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นมาจากความเครียด การเป็นไมเกรน การเป็นโรคสมองเสื่อม หรือว่าการมีเนื้องอกในสมอง อย่างไรก็ตามการปวดหัวสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายส่วนของศีรษะ และแต่ละส่วนก็สามารถบ่งบอกบางอย่างได้แตกต่างกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. อาการปวดหัวทั้งสองข้าง
อาการปวดหัวทั้งสองข้าง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากความเครียด โดยอาการปวดมักจะเกิดขึ้นแบบเป็น ๆ หาย ๆ หรืออาจจะมีอาการปวดต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป อีกทั้งในผู้ป่วยบางรายก็อาจจะมีอาการปวดยาวนานกินเวลาเป็นวันได้เลย ซึ่งอาการปวดศีรษะในลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นร่วมกันกับการเป็นไมเกรน
2. อาการปวดหัวข้างเดียว
อาการปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการเป็นโรคไมเกรน โดยจะปวดหัวข้างใดข้างหนึ่ง หรือปวดสลับกันไป ซึ่งอาจจะพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาเจียน หรือคลื่นไส้ ทั้งนี้อาการปวดมักจะเกิดขึ้นนานเป็นชั่วโมงหรือปวดนานหลายวัน
3. อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์
อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ เป็นอาการปวดที่มีความรุนแรง โดยจะปวดมาก ๆ ในบริเวณรอบดวงตา เบาตา และที่ขมับข้างเดียว นอกจากนั้นอาจจะมีอาการร้อนที่หน้าผาก และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัดจมูก หูอื้อ และน้ำตาไหล ซึ่งอาการปวดจะอยู่นานหลายวันหรือหลายสัปดาห์
4. อาการปวดหัวบริเวณขมับ
อาการปวดหัวบริเวณขมับ เป็นอาการที่ปวดราวกับว่าหัวกำลังถูกทับ หรือถูกกด โดยอาการมักจะเริ่มเกิดขึ้นจากบริเวณท้ายทอยแล้วร้าวไปจนถึงขมับสองข้าง จากนั้นก็นำไปสู่อาการปวดร้าวไปทั้งหัว ซึ่งจะมีอาการปวดมากกว่า 30 นาทีขึ้นไป อาการปวดแบบนี้มักจะเกิดขึ้นได้ความเครียด เหนื่อย หรือการโกรธ
5. อาการปวดหัวบริเวณหน้าใบหู
อาการปวดหัวบริเวณหน้าใบหู ขากรรไกร และช่วงกราม เป็นอาการปวดที่มักจะพบในช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า ทำให้อ้าปากไม่สะดวกและเคี้ยวอาหารได้ยาก ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นได้จากการบาดเจ็บที่ข้อต่อขากรรไกร กล้ามเนื้อบดเคี้ยว หรือการนอนกัดฟัน
การบรรเทาอาการปวดหัวเบื้องต้น
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าอาการปวดหัวเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย และเป็นอาการที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ทั้งนี้หากว่าเป็นมีอาการแล้วก็สามารถหาวิธีการต่าง ๆ มาช่วยในการบรรเทาอาการที่เป็นให้ดีขึ้นได้ ซึ่งวิธีการที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ในเบื้องต้นก็มีดังนี้
- เติมน้ำให้ร่างกาย: โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีอาการปวดหัวเป็นประจำนั้นมักมีสาเหตุมาจากการดื่มน้ำน้อย เมื่อร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งในน้ำอาจจะใส่ส่วนผสมบางอย่าง เช่น มะนาวและน้ำผึ้งลงไปให้เกิดกลิ่นเพื่อบรรเทาอาการปวดได้
- นวดกดจุด: อาการตึงที่คอ บ่า ไหล่ ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดร่วมกับการปวดหัวได้ โดยอาการนี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการนวดกดจุดที่กล้ามเนื้อบริเวณ Trapezius เพื่อคล้ายกล้ามเนื้อที่จับกันเป็นก้อน แล้วอาการปวดก็จะลดลงได้นั่นเอง
- ประคบเย็น: เป็นสิ่งที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้เช่นกัน โดยให้นำเอาน้ำแข็งห่อด้วยผ้าสะอาด แล้วนำมาใช้ประคบลงบริเวณที่มีความรู้สึกว่าปวด เช่น คอ หรือหน้าผาก นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้แล้วยังช่วยให้สดชื่นมากขึ้นด้วย
- ใช้กลิ่นช่วย: โดยวิธีการนี้ให้ใช้น้ำมันหอมระเหยเข้ามาช่วย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายกลิ่น แต่ละกลิ่นสามารถช่วยผ่อนคลายอาการปวดหัว ความเครียด ไมเกรน และช่วยลดอาการอักเสบที่เกิดขึ้นได้ด้วย
สรุปจบบทความ
จากที่กล่าวมานี้จะเห็นได้เลยว่าอาการปวดหัวสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายส่วน โดยแต่ละส่วนก็มีอาการแตกต่างกัน ดังนั้นไม่ว่าจะปวดหัวแบบไหนก็ตามควรที่จะสังเกตอาการของตัวเองให้ดีด้วยว่าปวดในส่วนไหน รวมถึงหากว่ามีอาการปวดหัวร่วมกับอาการอื่น เช่น มีไข ก็ให้ใช้ที่วัดไข้ดิจิทัล เพื่อทำการวัดอุณหภูมิดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีไข้และมีอาการอื่นร่วมด้วยอีก ก็ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาทันที