คุณมีอาการหายใจไม่เต็มปอดหรือไม่

อาการหายใจไม่เต็มปอดเป็นอย่างไรบ้าง

อาการหายใจไม่เต็มปอด หรือภาวะหายใจไม่อิ่ม เป็นปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญกันอยู่ โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ที่ผู้คนมีอาการนี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเมื่อเป็นแล้วก็จะรู้สึกว่าหายใจได้ไม่เต็มปอด รู้สึกอึดอัด และแน่นหน้าอก อาการนี้ก็ได้สร้างความกังวลให้ผู้คนไม่น้อยเลย แท้ที่จริงแล้วอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคร้ายแต่อย่างใด เพียงแค่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มาเช็กกันหน่อยดีกว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นใช่อาการของการหายใจไม่อิ่มหรือเปล่า

อาการหายใจไม่เต็มปอดเป็นอย่างไรบ้าง

อาการหายใจไม่เต็มปอด หรือหายใจไม่อิ่ม เป็นอาการที่ปกติแล้วมักจะเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยที่มีอาการนี้จะไม่สามารถสูดอากาศเข้าในร่างกายได้อย่างเต็มที่ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงส่งผลให้รู้สึกว่าหายใจไม่ออก เกิดความอึดอัด และจะหายใจได้แบบช่วงสั้น ๆ แทน

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่มขึ้นก็มาจากหลากหลายสาเหตุที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เช่น การที่ผู้ป่วยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศกระตุ้นให้เกิดอาการนี้ขึ้น หรือการทำกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้แรงมากจนเกินไป ซึ่งหากว่าเกิดอาการนี้ขึ้นแล้วปล่อยไว้นานเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่มแบบเรื้อรังได้

สำหรับอาการหายใจไม่เต็มปอดที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ก็คือ การที่ผู้ป่วยจะไม่สามารถหายใจเข้าลึก ๆ ได้ หรือจะเป็นการหายใจเป็นจังหวะได้เพียงแค่สั้น ๆ อีกทั้งยังเกิดอาการแน่นหน้าอกจึงทำให้หายใจได้ไม่สะดวก และสูดอากาศเข้าสู่ร่างกายได้ไม่เพียงพอ รวมถึงหากว่าอาการมีความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าเหมือนจะขาดใจหรือหายใจไม่ออกได้เลย

การบรรเทาอาการหายใจไม่เต็มปอด

อาการหายใจไม่อิ่มเป็นอาการที่ดูเหมือนว่าน่ากลัวมากก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถหาทางบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ โดยสิ่งที่จะสามารถช่วยบรรเทาอาการหายใจไม่เต็มปอดได้ก็คือ การอยู่ในท่าทางต่าง ๆ ที่จะต้องทำไปพร้อมกับการหายใจด้วยท้องและการหายใจด้วยวิธีการห่อริมฝีปาก ก็จะสามารถช่วยให้อาการที่เป็นดีขึ้นได้ ซึ่งท่าทางที่ควรทำเมื่อมีอาการหายใจไม่อิ่ม มีดังต่อไปนี้

  • การนั่งเอนตัวไปด้านหน้า ท่านี้ให้ทำโดยการที่ผู้ป่วยจะต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับการวางเท้าให้ราบไปกับพื้น จากนั้นก็ค่อย ๆ เอนตัวมาด้านหน้าแล้วทำการยกศอกขึ้นวางลงบนหัวเข่าหรือว่าจะเป็นการนั่งแบบเท้าคางก็ได้เช่นกัน หลังจากนั้นจึงปล่อยตัวตามสบายไม่เกร็งไหล่และคอ
  • การนั่งเอนตัวไปด้านหน้าแบบที่มีโต๊ะค้ำไว้ ท่านี้ให้ทำโดยการที่ผู้ป่วยจะต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับการวางเท้าให้ราบไปกับพื้น จากนั้นให้โน้มตัวไปด้านหน้าพร้อมกับการวางแขนทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ หลังจากนั้นให้เอนศีรษะไปบนแขนที่วางอยู่
  • การนอนในท่าที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ผู้ป่วยที่มีปัญหาหายใจไม่อิ่มขณะที่นอนหลับจะต้องนอนด้วยท่าตะแคงข้างพร้อมกับการหนีบหมอนไว้ที่ขาและต้องหาหมอนมาใช้หนุนศีรษะให้ยกสูงขึ้นด้วย ในการนอนควรเหยียดตัวตรง

แนวทางการป้องกันอาการหายใจไม่เต็มปอด

แม้ว่าจะสามารถบรรเทาอาการหายใจไม่อิ่มได้ก็จริง แต่การป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่า ซึ่งแนวทางการป้องกันอาการหายใจไม่เต็มปอดก็สามารถทำได้ดังนี้

  • ฝึกหายใจด้วยท้อง: วิธีนี้จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อกะบังลมสามารถทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นและยังเป็นการช่วยให้หายใจได้สะดวกมากขึ้นด้วย วิธีการก็ทำได้ด้วยการวางมือข้างหนึ่งลงที่หน้าอกและมืออีกข้างวางบนหน้าท้อง จากนั้นใช้มือกดไปเบา ๆ ลงบนท้อง เพื่อเป็นการช่วยไล่อากาศ
  • ฝึกหายใจแบบห่อริมฝีปาก: วิธีนี้จะช่วยทำให้สามารถควบคุมจังหวะของการหายใจให้ช้าลงได้ ช่วยให้สูดหายใจได้ลึกมากขึ้นและร่างกายก็จะได้รับออกซิเจนแบบเต็มที่ วิธีการก็ทำได้ด้วยการหายใจเข้าทางจมูกพร้อมกับการห่อริมฝีปากไปด้วยแล้วทำการปล่อยลมหายใจออกมาทางปากแบบช้า ๆ
  • เลือกออกกำลังกายอย่างเหมาะสม: วิธีนี้จะช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อวัยวะเกิดความแข็งแรง และส่งดีต่อการหายใจเพื่อนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาอาการหายใจไม่อิ่มได้ โดยการออกกำลังกายก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเดิน, การวิ่ง หรือว่าการปั่นจักรยาน
  • ผ่อนคลายความเครียด: รู้หรือไม่ว่าการวิตกกังวลและการมีความเครียดสะสมนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่สามารถส่งผลต่ออาการหายใจไม่อิ่มได้ จึงทำให้ควรจะผ่อนคลายจากความเครียดทั้งหลาย ซึ่งการผ่อนคลายความเครียดก็ทำให้หลากหลายวิธี เช่น การฟังเพลง, การออกกำลังกาย, การพูดคุยกับผู้อื่น หรือว่าการทำสมาธิ
  • ขับเสมหะออกจากปอด: อีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลต่ออาการหายใจไม่อิ่มได้ด้วย ก็คือ เสมหะ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องขับเสมหะออก ซึ่งหากว่าผู้ป่วยมีเสมหะในปอดเยอะก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษาและหาวิธีการระบายเสมหะออกไปจากปอดนั่นเอง

สรุปจบบทความ

จากที่กล่าวมานี้ก็คงจะช่วยทำให้ทราบแล้วว่าอาการหายใจไม่เต็มปอดเป็นอย่างไรบ้าง แล้วหากเป็นควรบรรเทาอาการอย่างไรบ้าง โดยหากทราบว่าตัวเองมีอาการดังกล่าวก็ควรเฝ้าสังเกตอาการของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งการมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วติดบ้านไว้ก็จะสามารถช่วยให้เฝ้าระวังอาการได้ดีมากขึ้น เนื่องจากว่าเครื่องนี้จะช่วยบอกได้ว่าค่าออกซิเจนในขณะนั้นเป็นอย่างไรบ้าง หากพบว่าค่าออกซิเจนผิดปกติจะช่วยให้ได้ไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง