ทานแคลเซียมให้ถูกวิธี

ทานแคลเซียมให้ถูกวิธี

การทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมให้ถูกวิธี เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้มาก คุ้มกับราคาที่จ่ายไปมีความสำคัญมาก แคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายนำมาใช้ในการสร้างกระดูกและฟันในร่างกาย รวมถึงซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอมีส่วนทำให้เลือดแข็งตัวเมื่อเกิดบาดแผลช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ฯลฯ หลายคนจึงกังวลว่าจะขาดแคลเซียมจึงนิยมซื้อผลิตภัณฑ์แคลเซียมมาบริโภค ทั้งแคลเซียมคาร์บอเนต หรือ คอรอลแคลเซียมก็ตาม แต่จะบริโภคอย่างไรให้เหมาะสม เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด

 

เรื่องจริงของการทานแคลเซียม

ความจริงแล้วการบริโภคผลิตภัณฑ์แคลเซียมมากไม่ได้หมายความร่างกายจะรับได้มากอย่างที่คิดเนื่องจากร่างกายจะรู้สึกว่าแคลเซียมอันตรายเพราะเป็นธาตุโลหะชนิดหนึ่งที่ไม่ควรดูดซึมดังนั้นหากรับประทานแคลเซียมมากไปร่างกายจะปิดตัวเองไม่รับแคลเซียม จึงทำให้เกิดการท้องอืดท้องเฟ้อ บางคนท้องผูกก็มี แต่ปัญหานี้ก็ช่วยได้โดยการทาน คอรอลแคลเซียม (แคลเซียมจากปะการังน้ำลึก) ที่ให้แคลเซียมธรรมชาติ คอรอลแคลเซียมจึงดูดซึมได้ง่ายกว่า และให้แร่ธาตุสำคัญต่อร่างกายที่ต้องการปริมาณน้อยแต่ต้องมีครบ (Trace mineral) อีกด้วย

 

แคลเซียมกับคุณแม่

ในกลุ่มคุณแม่จะมีฮอร์โมนโพรแลคตินออกมาจากต่อมใต้สมองอยู่แล้วในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมลูกซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารที่รับประทานได้มากขึ้นโดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานนมหรือแคลเซียมเสริม คือ ประมาณ 15-30 นาทีก่อนเริ่มให้นมลูกโดยแคลเซียมที่เข้าสู่ร่างกายเพิ่มขึ้นนี้จะช่วยเสริมให้กระดูกของแม่แข็งแรงและมีปริมาณแคลเซียมในน้ำนมเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายลูก ดังนั้นคุณแม่ควรจะทานแคลเซียมคุณภาพดี เช่น คอรอลแคลเซียม เพื่อให้ดูดซึมไปใช้งานได้มาก

 

การบริโภคแคลเซียมให้ถูกต้อง

กลุ่มผู้บริโภคแคลเซียมแบ่งเป็น 2 ช่วงอายุ คือ หนึ่งกลุ่มคนที่ยังไม่เข้าสู่วัยสูงอายุแนะนำให้บริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงที่มาจากผลิตภัณฑ์นมอาหารไทยพวกปลาตัวเล็กตัวน้อย กุ้งหรือแม้แต่ปลากระป๋อง งา กรณีที่แพ้นมวัว อาจเปลี่ยนไปบริโภคนมแบบอื่นหรืออาจหันไปบริโภคนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตแทนและเลือกที่ไม่หวานฉะนั้นในแง่ของความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์จึงแนะนำให้บริโภคอาหารที่มีความคุ้มค่าและคุณค่าเพียงพอต่อความต้องการแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับ 800 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อนำมาเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูก ฟัน และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องรับประทานแคลเซียมเสริม คือ กลุ่มผู้สูงวัยโดยเฉพาะหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งมีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน 1 ใน 3 ขณะที่ผู้ชายจะกระดูกพรุนช้ากว่าเนื่องจากระดับฮอร์โมนจะลดลงช้ากว่า โดยผู้หญิงควรได้รับแคลเซียมเสริมอย่างน้อยวันละ 1,000 – 1,200 มิลลิกรัมต่อวันหรือเทียบกับการดื่มนม 6-7 แก้วต่อวัน โดยไม่ควรทานแคลเซียมทั่วไปในตลาด เพราะเป็นแคลเซียมคาร์บอร์เนต ควรเลือกแคลเซียมจากธรรมชาติเช่น คอรอลแคลเซียมจะดีกว่า และควรออกกำลังกายตากแดดยามเช้าเพื่อช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมดีขึ้น นอกจากนี้ยังควรลดอาหารที่มีออกซาเลตและไนเตรทในปริมาณสูงๆ รวมถึงน้ำกระด้างหรือสารที่ไปสกัดการดูดซึมแคลเซียม เช่น การดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่ควรรับประทานแคลเซียมพร้อมยาประเภทอื่นเพราะทำให้การดูดซึมยานั้นๆ น้อยลงที่สำคัญไม่ควรซื้อแคลเซียมมารับประทานเองควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าตนเองขาดแคลเซียมมากน้อยแค่ใหน