หิว!!! กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ทำไงดี

กินอาหารเท่าไหร่ ก็ไม่อิ่ม

3 เทคนิค ไปปรับใช้ก่อน อ้วนขึ้น ในช่วงหยุดยาว
#ของมันต้องกิน #กินแป้งก็ผอมได้

#WFH มาเดือนกว่า กับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น เพราะ food delivery ที่เพรียบพร้อมให้เลือกทุกวัน จะอาหารสไตล์ไหน จีน ไทย ฝรั่ง แมกซิกัน หรือ street food สั่งก็ง่ายเพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ไหนเราก็สรรหาสั่งมากินได้หมด
เมนูคาว หวาน พร้อม มื้อไหนไม่รู้ รู้แต่เปิดตู้เย็นตลอดทั้งวัน ยิ่งเค้ก ขนมปัง ยิ่งชอบเลย

แต่เอ้……กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักที ลองมานั่งดูอาหารที่ทานในแต่ละวัน เมนูเป็น แป้ง แป้ง และ แป้ง ทั้งนั้น
แต่ทำไมยังหิวน้า
ลองเทคนิคเหล่านี้ ก่อนจะเหยียบบรคน้ำหนักตาชั่งไม่ทัน นะคะ

1. เลือกทานแป้งที่มีค่า GI ต่ำ
GI หรือ Glycemic index เป็นค่าวัดความเร็วและปริมาณการเพิ่มของน้ำตาลในเลือด ที่บอกว่าอาหารที่เราทานจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ช้าเร็วขนาดไหน ถ้าถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้เร็ว ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็ว และต่ำลงเร็ว จนทำให้เกิดอาการหิว
แป้งที่มีค่า GI ต่ำได้แค่ ข้าวกล้อง ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ขนมปังโฮลวีท หรือคาร์โบไฮเดรตจากธรรมชาติ เช่น มันเทศ มันฝรั่ง

2. หลีกเลี่ยง/ลดปริมาณน้ำตาล
ปริมาณน้ำตาลที่แนะนำต่อวัน ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ คือไม่เกิน 6 ช้อนชา ต่อวัน ดังนั้นใครที่ดื่มเครื่องดื่มสำเร็จรูปที่แต่งกลิ่นรส ดูสารอาหารที่ฉลากดีๆนะคะ หรือคนที่ติดกาแฟรสหวาน การชงการแฟใช้น้ำตาล 2 ช้อนชา ดื่มวันละ 3 แก้วก็หมดโควต้าน้ำตาลในแต่ละวันแล้ว ยังไม่รวมการปรุงน้ำตาลในอาหารแต่ละมื้อเลย
ทางที่ดีควรลดของหวาน ขนมหวาน และน้ำตาลลง

3. ทางเลือกอีกอย่างที่ได้รับการศึกษาว่าช่วยลดค่า GI ของคาร์โบไฮเดรตที่ทาน คือ การทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ไวเนก้า หรือ น้ำส้มสายชูจากการหมักแอปเปิ้ล พร้อมกับมื้ออาหาร ซึ่งจะทำให้อิ่มนานขึ้น แอปเปิ้ลไซเดอร์ไวเนก้า คืออะไร ข้อมูลเพิ่มเติม

ทั้งนี้ รูปร่างดี ไม่จำเป็นต้องน้ำหนักลดลงเสมอไปนะคะ บางคนน้ำหนักอาจคงที่หรือเพิ่มขึ้น แต่ดูเฟิร์ม กระชับ มีสัดส่วนมากขึ้น