นอกจากอากาศร้อนระอุที่ต้องรับมือในช่วงนี้แล้ว สิ่งที่มักจะมากับหน้าร้อนก็คือโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่มาจากอาหาร เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลายชนิด วันนี้เรามีโรคฮิตหน้าร้อนที่ทุกคนต้องระวังมากฝากกันค่ะ
- โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือสารเคมีที่ปนในอาหาร หรือ พบในอาหารที่ผ่านการปรุงไว้นาน แล้วไม่ได้แช่เย็นหรืออุ่นร้อนก่อนรับประทาน โดยอาการสำคัญ คือ มีไข้ ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำจากการอักเสบที่กระเพราะอาหาร ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว บางรายมีอาการรุนแรง เนื่องจากมีการติดเชื้อ แนะนำให้รีบพบแพทย์ เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้
- โรคบิด เกิดจากอาการติดเชื้อเฉียบพลันในระบบทางเดินอาหารของลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก อาการสำคัญ คือ มีไข้ ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด เวลาถ่ายอุจจาระ มีอาการเหมือนถ่ายไม่สุด การถ่ายบ่อยอาจทำให้ผู้ป่วยเสียน้ำ และเกลือแร่รุ่นแรง จึงควรปรึกษาแพทย์
- โรคไข้ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย เกิดจากติดเชื่อแบคทีเรีย ซัลโมเนลล่า ไทฟี่ (Salmonella Typhi) มักเกิดจากการบริโภคอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อปนเปื้อน อาการสำคัญ คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย อาจมีผื่น ถ่ายเหลวหรือท้องผูก หากไม่รับการรักษา บางรายจะมีไข้อยู่นาน 3-4 สัปดาห์
- โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก เกิดจากการได้รับความร้อนมากเกินไป (เกินกว่า 40 องศา) ทำให้สมองไม่ทำงาน ไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมอง อาการที่สังเกตได้ คือ ไม่มีเหงื่อออกแม้อากาศและอุณภูมิร่างกายจะร้อนมาก กระหายน้ำมาก ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน เมื่อเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที เบื้องต้นควรประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็นหรือถุงน้ำแข็ง และดื่มน้ำเพื่อชดเชยภาวะขาดน้ำของร่างกาย
เห็นแบบนี้แล้ว เราต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดของอาหารและเครื่องดื่ม ภาชนะบรรจุอาหาร อีกอย่างนึงที่สำคัญ ควรมีทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ที่มีความรวดเร็วและแม่นยำในการวัดไข้ ไว้ที่บ้าน ให้เรารู้ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกาย และรับมือกับโรคได้ทันที