เลือกสุขภัณฑ์ลดเสี่ยงโรคข้อเข่าเสื่อม

เลือกสุขภัณฑ์เพื่อผู้สูงวัยลดเสี่ยงโรคข้อเข่าเสื่อม

ปัจจุบันโครงสร้างอายุของประเทศกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ประชากรผู้สูงอายุไทยสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ10.7 (7 ล้านคน) ในปี 2550 เป็นร้อยละ 11.7 (7.5) ล้านบาทในปี 2553 แสดงว่าขณะนี้ประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว และคาดว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุไทยเพิ่มเป็นร้อยละ 20.0 (14.5 ล้านคน)  ในปี 2568นั่นแสดงว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในอีกวัน 13 ปีข้างหน้า

 

ความสำคัญของโรคข้อเข่าเสื่อม

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ได้ให้ความสำคัญเรื่องของสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพข้อเข่า จึงจัดทำแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่  3 (พ.ศ. 2556-2559) และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อส่งเสริมให้ครัวเรือนมีส้วมนั่งราบ หรือมีอุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาข้อเข่า เช่นรถเข็นอาบน้ำ อุปกรณ์ช่วยยืนอาบน้ำลดปัญหาข้อเข่า ให้ได้ร้อยละ 90 และส้วมสาธารณะ ให้ได้ 100% ภายในปี 2559

 

โรคที่พบมากสุด

น.พ.เจษฎา  โชคดำรงสุข  อธิบดีกรมอนามัย  กล่าวว่าเนื่องจากผู้สูงอายุจะต้องเผชิญกับปัญหาจากความเสื่อมของร่างกายโดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่พบมากที่สุดโรคหนึ่งในผู้สูงอายุหรือในวัยกลางคน ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปจากสถิติผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อในไทยของมูลนิธิโรคข้อฯ พบว่าปี 2549  ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมกว่า 6 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งมาจากการใช้ส้วมนั่งยองติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ หลายปี เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากพฤติกรรมการขับถ่ายของเสียของคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบันนิยมใช้ส้วมนั่งยองในครัวเรือนร้อยละ86.0 สำหรับการใช้ส้วมนั่งราบหรือส้วมห้อยขาร้อยละ 13.2 ของครัวเรือนทั้งหมดในปี 2553

 

ความต้องการของประชาชน

และจากการสำรวจล่าสุดของกรมอนามัยเมื่อเดือนธันวาคมปี 2555 พบว่า ประชาชนคนไทยร้อยละ 67.1 ต้องการให้ส้วมสาธารณะมีโถส้วมนั่งราบ โดยส้วมสาธารณะที่ประชาชน เลือกใช้บริการมากที่สุด 3 อับดับแรก ได้แก่ ปั๊มน้ำมันร้อยละ 46.0 แหล่งท่องเที่ยวร้อยละ 39.4 และสถานีขนส่งทางบกและทางอากาศร้อยละ 36.5 ซึ่งเป็นข้อมูลสถานการณ์ที่สอดคล้องกันกับโครงสร้างประชากรของไทยและรูปแบบการใช้ชีวิตของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น เพราะการขับถ่ายโดยนั่งยองๆ จะส่งผลต่อข้อเข่ามาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ปวดข้อเข่าอยู่แล้วจะสร้างความลำบากทั้งกายและใจ

 

ใส่ใจสุขภาพที่บ้าน

ดังนั้น การมีสุขภาพดีควรเริ่มต้นจากที่บ้าน และเพื่อเป็นการชะลอและลดการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมของผู้สูงอายุ และการมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้องของเยาวชน การให้ความสำคัญกับส้วมนั่งราบหรือส้วมห้อยขาภายในบ้าน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และสถานที่สาธารณะ ได้แก่ปั้มน้ำมัน แหล่งท่องเที่ยว สถานีขนส่ง เป็นต้น จะต้องจัดบริการส้วมนั่งราบหรือส้วมห้อยขาที่ได้มาตรฐานไว้บริการเช่นเดียวกัน เพื่อลดปัญหาข้อเข่าเสื่อมในอนาคต