ภูมิแพ้รักษาได้ ไม่ต้องใช้ยา

ภูมิแพ้รักษาได้ ไม่ต้องใช้ยา!!

โรคภูมิแพ้มีมากมายหลากหลายประเภท แต่ภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ภูมิแพ้อากาศ ที่ทำให้เราเป็นหวัด คัดจมูก ไอ จาม สร้างความลำบากและความรำคาญให้กับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อย่างมาก เมื่ออาการภูมิแพ้ลุกลามมากจนสร้างความลำบาก ผู้ป่วยก็จะเลือกทานยาต้านฮิสตามีน หรือยาแก้แพ้ต่างๆ โดยยาประเภทนี้คือการกดภูมิคุ้มกันของร่างกายเอาไว้ ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ ซึ่งแท้จริงแล้วการทานยาเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว ซ้ำร้ายยาต้านภูมิแพ้ยังส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักในการกำจัดสารพิษ ที่สำคัญยาบางชนิดยังมีผลข้างเคียงด้วย เช่น ทำให้ง่วงนอน และเมื่อหยุดกินอาการแพ้ก็จะกลับมาอีก เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาภูมิแพ้ที่ต้นเหตุ

 

ต้นเหตุของโรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้นั้นเกิดจากความผิดปกติภายในร่างกายของผู้ป่วยเอง โดยจะเกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวคือเซลล์ Th1 และเซลล์ Th2 ทำงานไม่สมดุลกัน ในคนปกตินั้นเซลล์ทั้งสองประเภทดังกล่าวจะทำงานอย่างสมดุล เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ควัน ขนสัตว์ อากาศหนาว คนปกติก็จะไม่เกิดอาการแพ้เพราะร่างกายไม่ได้ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้น แต่สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นเซลล์ Th2 จะถูกหลั่งออกมามากผิดปกติ ในขณะที่เซลล์ Th1 จะหลั่งออกมาน้อย เมื่อภูมิคุ้มกันทำงานขาดความสมดุลก็จะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ทั้งผื่นคัน จาม น้ำมูกไหล ตาแดง ฯลฯ ซึ่งสร้างความทรมานให้กับผู้เป็นภูมิแพ้ จึงทำให้คนเหล่านี้ต้องทานยาต้านภูมิแพ้ทุกวัน

 

แก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการดูแลตนเอง

จากที่ทราบกันแล้วว่าโรคภูมิแพ้เกิดจากการทำงานของภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง ดังนั้นการดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง คืออีกหนทางหนึ่งในการป้องกันภูมิแพ้ โดยแบ่งได้เป็นข้อๆ ดังนี้

1. หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้หัวใจสูบฉีด และช่วยนำสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรง จึงลดความรุนแรงของโรคภูมิแพ้ได้

2. เลือกทานผักและผลไม้เพิ่มมากขึ้น เพราะอาหารคือหัวใจสำคัญของร่างกาย ผักและผลไม้มีประโยชน์โดยจะให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะวิตามินซี ที่จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ต่อต้านภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับสนิท และพักผ่อนอย่างเพียงพอทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี แต่หากพักผ่อนน้อย ภูมิคุ้มกันจะลดลงจนทำให้ง่ายต่อการเป็นภูมิแพ้

4. จัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดสารก่อภูมิแพ้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นภูมิแพ้อากาศ ก็ควรใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนั้น ถ้าแพ้เกสร ขนสัตว์ ก็ต้องพึงระวังไม่ให้ถูกกับสารก่อภูมิแพ้ดังกล่าว

5. เลือกอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ในปัจจุบันมีอาหารเสริมประเภทหนึ่งที่จะเข้าไปเพิ่มการทำงานของเซลล์ Th1 และลดการทำงานของเซลล์ Th2 ซึ่งเมื่อเซลล์ทั้งสองประเภททำงานได้อย่างสมดุลแล้ว โรคภูมิแพ้ก็จะหายขาดได้ โดยมีงานวิจัยพบว่าสารที่ช่วยปรับเซลล์ Th1 และ Th2 ให้สมดุล นั้นได้จากมังคุด คือสาร GM-1 ดังนั้นสำหรับผู้ที่อาจไม่มีเวลาดูแลตัวเอง การเลือกอาหารเสริมให้ถูกต้องก็ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ได้