9 วิธีทำให้นอนหลับลึกตลอดคืน ช่วยให้ตื่นมาสดชื่นทุกวัน 

นอนหลับสนิท 

การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ แต่ในปัจจุบันหลายคนกลับประสบปัญหานอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิต วันนี้ เราจะแนะนำวิธีทำให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ พร้อมเทคนิคที่ช่วยให้คุณสามารถเข้านอนได้ง่ายขึ้นและตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีทําให้นอนหลับภายใน 5 นาที เราได้รวบรวมเคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวันได้ ในบทความนี้แล้ว!    

สาเหตุของการนอนไม่หลับ 

การนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอน ดังนี้

  • ความเครียดและความวิตกกังวล การทำงานหนักเกินไป ปัญหาการเงินหรือความกังวลในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้สมองทำงานหนักและยากต่อการผ่อนคลาย
  • สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การเปลี่ยนที่นอน สภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม เสียงรบกวนหรือแสงสว่างที่มากเกินไป ล้วนส่งผลต่อการนอน
  • ปัญหาสุขภาพ โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจหรือโรคกรดไหลย้อน สามารถรบกวนการนอนได้
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต การนอนกลางวันมากเกินไป การเข้านอนไม่เป็นเวลาหรือการเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนก็อาจทำให้นอนไม่หลับได้ 
  • ได้รับสารกระตุ้นทำให้นอนไม่หลับ การดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในช่วงใกล้เวลานอนก็เป็นสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน   

อาการนอนไม่หลับส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร 

การนอนไม่หลับเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของสมองและระบบภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืดได้ง่าย นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ปัญหาด้านระบบหลอดเลือดหัวใจที่ต้องคอยตรวจเช็กและดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดด้วยเครื่องวัดความดันอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะมีอาการอ่อนเพลีย ระบบเผาผลาญผิดปกติ และมักมีอาการป่วยต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ มีไข้ รวมถึงอาการท้องผูกหรือท้องเสีย ที่สำคัญคือส่งผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจ ทำให้โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน เกิดความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า มีอาการเฉื่อยชา ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน 

9 วิธีทำให้นอนหลับง่ายขึ้น 

1. สร้างบรรยากาศการนอน

การจัดห้องนอนให้เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น ควรปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นสบาย อยู่ที่ประมาณ 20 – 24 องศาเซลเซียส ใช้ผ้าม่านสีเข้มเพื่อกันแสง อาจเพิ่มกลิ่นหอมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากน้ำมันหอมระเหย เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์หรือคาโมมายล์ และปิดไฟให้มืดสนิ ทำให้จิตใจและร่างกายผ่อนคลายพร้อมสำหรับการนอนหลับที่มีคุณภาพ  

2. ไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน 

แสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอน การเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนไม่เพียงทำให้สมองตื่นตัว แต่ยังรบกวนคุณภาพการนอนอย่างมาก เพราะฉะนั้น วิธีทำให้นอนหลับคือควรหยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อย 1 – 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน แทนที่ด้วยกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ หรือการฟังเพลงเบา ๆ เป็นต้น  

เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน

3. ออกกำลังกาย 4 – 6 ชั่วโมงก่อนนอน

การออกกำลังกายที่เหมาะสมช่วยให้นอนหลับดีขึ้น แต่ต้องทำในเวลาที่เหมาะสม ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นตอนต้น และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 4 – 6 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะร่างกายจะยังคงอยู่ในภาวะตื่นตัว อุณหภูมิร่างกายสูงและมีการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งทำให้นอนหลับยากขึ้นขึ้น แนะนำให้ออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น โยคะหรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อจะดีกว่า   

4. ไม่ดื่มกาแฟ สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

สารกระตุ้นประสาทต่าง ๆ มีผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอน ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์และไม่ควรสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมงก่อนนอน สามารถดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น ชาคาโมมายล์ นมอุ่น ซึ่งมีสารที่ช่วยส่งเสริมการนอนหลับได้  

5. หลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อดึก

การรับประทานอาหารมื้อดึกส่งผลต่อการนอนหลับอย่างมาก เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกอึดอัดและนอนไม่สบาย ควรรับประทานมื้อเย็นให้เสร็จก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมง หากหิวก่อนนอน แนะนำให้ทานอาหารว่างเบา ๆ ที่ย่อยง่าย เช่น ผลไม้ หรือโยเกิร์ตไม่มีน้ำตาล  

เลือกเตียงที่เหมาะสมกับการนอน

6. เลือกเตียงนอนที่เหมาะสม

คุณภาพของเตียงและที่นอนมีผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอน ควรเลือกที่นอนที่รองรับสรีระร่างกายได้ดี ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป หมอนที่เหมาะสมกับท่าทางการนอนและผ้าปูที่นอนที่ระบายอากาศได้ดี การลงทุนกับอุปกรณ์การนอนที่มีคุณภาพ เช่น ที่นอนลมที่มีคุณสมบัติรองรับน้ำหนักและระบายอากาศได้ดี ซัพพอร์ตสรีระร่างกาย ช่วยให้คุณนอนหลับสบายและตื่นขึ้นมาโดยไม่ปวดเมื่อย  

7. อาบน้ำอุ่น 

การอาบน้ำอุ่น 1 – 2 ชั่วโมงก่อนนอน จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายขึ้น อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 37 – 39 องศาเซลเซียส หรือจะเป็นการแช่เท้าในน้ำอุ่นก็ได้ แช่พร้อมนวดเท้าเบา ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้ผ่อนคลายได้  

8. ปรับเวลาการนอน

วิธีทำให้นอนหลับอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน คือการสร้างนิสัยการนอนที่สม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับวงจรการนอนได้ดีขึ้น พยายามเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน ถึงแม้จะเป็นวันหยุดห็ตาม ทั้งนี้ เวลานอนที่เหมาะสมคือช่วง 21.00 – 23.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ Growth Hormones กำลังหลั่งและควรนอนให้ได้ 7 – 9 ชั่วโมงต่อคืน หลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงบ่ายหรือเย็น เพราะจะรบกวนวงจรการนอนตอนกลางคืน  

9. ฝึกลมหายใจก่อนนอน

เทคนิคการหายใจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจก่อนนอน ลองใช้เทคนิค 4 – 7 – 8 โดยหายใจเข้าลึก ๆ นับ 1 – 4 กลั้นหายใจนับ 1 – 7 และหายใจออกช้า ๆ นับ 1 – 8 ทำซ้ำ 4 – 5 รอบ วิธีนี้จะช่วยลดความเครียด ทำให้จิตใจสงบและพร้อมสำหรับการนอนหลับที่มีคุณภาพ 

ตื่นมาอย่างสดใส

สรุปบทความ 

การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การที่เราทราบถึงวิธีทำให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่หลายคนประสบปัญหานอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิต ด้วยวิธีทำให้นอนหลับทั้ง 9 ข้อที่แนะนำไปนั้น ตั้งแต่การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม การปรับพฤติกรรมก่อนนอน ไปจนถึงการสร้างกิจวัตรการนอนที่ดี เมื่อนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณสามารถแก้ปัญหานอนไม่หลับและนอนหลับได้ง่ายขึ้น บางคนอาจสามารถนอนหลับได้ภายใน 5 นาทีเมื่อปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือการนอนหลับที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น มีพลังพร้อมรับมือกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว เพราะการนอนที่ดีคือรากฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่แข็งแรงและชีวิตที่มีความสุขนั่นเอง