ให้ตรวจสอบปลายเทอร์โมมิเตอร์ว่ามีอะไรปิดบังลำแสงอินฟราเรดหรือไม่ และดำเนินการวัดใหม่ตามขั้นตอนในคู่มืออีกครั้งให้ส่งเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบ

เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หากเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วเทอร์โมมิเตอร์ยังไม่ทำงาน ให้ส่งเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบ

เมื่ออุณหภูมิที่วัดได้สูงกว่า 42.2 องศาเซลเซียสหรือ หรือ 108 องศาฟาเรนไฮต์ ในโหมดร่างกายหรือ 100 องศาเซลเซียส หรือ 212 องศาฟาเรนไฮต์ ในโหมดอเนกประสงค์

เมื่ออุณหภูมิที่วัดได้ต่ำกว่า 34 องศาเซลเซียสหรือ หรือ 93.2 องศาฟาเรนไฮต์ ในโหมดร่างกาย หรือ 0 องศาเซลเซียส หรือ 32 องศาฟาเรนไฮต์ ในโหมดอเนกประสงค์

ใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดใต้รักแร้ หลังจากนั้นวางปลายเทอร์โมมิเตอร์ไว้ใต้วงแขนตรงกลางรักแร้ให้ปลายสัมผัสกับผิวหนังและวางแขนของผู้ป่วยไว้ข้างลำตัวของผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจว่าอากาศในห้องจะไม่ส่งผลกระทบต่อการอ่านค่าอุณหภูมิระยะเวลาที่ใช้ในการวัด : เนื่องจากบริเวณใต้รักแร้ต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงอุณหภูมิจะคงที่ จึงต้องรออย่างน้อย 5 นาที (ไม่ต้องคำนึงถึงเสียงบี๊บ) ก่อนอ่านค่าอุณหภูมิ

งดทานหรือดื่มของร้อนหรือเย็น 10 นาทีก่อนทำการวัด และควรปิดปากค้างไว้อย่างน้อย 2 นาทีก่อนเริ่มวัดค่า วางเทอร์โมมิเตอร์ไว้ในช่องว่างใต้ลิ้นข้างใดข้างหนึ่ง โดยชี้ไปทางซ้ายหรือขวาของโคนลิ้น ปลายเทอร์โมมิเตอร์ ต้องสัมผัสกับผนังช่องปาก ปิดปากและหายใจปกติทางจมูกเพื่อป้องกันไม่ให้การวัดได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิของอากาศที่หายใจเข้า / หายใจออกกรณีที่ทางเดินหายใจทางจมูกถูกปิดกั้นหรือไม่สามารถหายใจได้สะดวกควรใช้วิธีการวัดอุณหภูมิ ณ จุดอื่น ๆระยะเวลาที่ใช้ในการวัด: ประมาณ 1 นาที

สอดปลายเทอร์โมมิเตอร์ เข้าไปทางทวารหนักอย่างระมัดระวัง ลึกประมาณ 2 ถึง 3 ซม. โดยแนะนำให้ใช้ฝาครอบและสารหล่อลื่นประกอบการวัดอุณหภูมิด้วย ทั้งนี้หากไม่แน่ใจเรื่องวิธีการวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำหรือเข้ารับการฝึกอบรมระยะเวลาที่ใช้ในการวัด: ประมาณ 1 นาที